您现在的位置是:DailyThai > ฮอตสปอต
【gasing slot】หมดหนทาง!! เอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่ม น่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิม | เดลินิวส์
DailyThai2025-02-10 23:40:19【ฮอตสปอต】5人已围观
简介น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำ gasing slot
น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไตรมาส 4 ปี 67 ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจรายย่อย และรายกลาง พึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจรายย่อยหันไปพึ่งพาแหล่งเงินจากนายทุนเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จาก 1.3% เป็น 7.4%
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2025/02/S__47472644-1280x856.jpg)
ส่วน ธุรกิจขนาดกลาง มีการกู้ยืมเงินทุนจากเพื่อน ญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น จาก 16.2% เป็น 18.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมพึ่งพาแหล่งกู้เงินในระบบสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เพิ่มมากขึ้น จาก 56.1% เป็น 69.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์“เอสเอ็มอี มีภาระหนี้สินมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 65% จาก 65.3% เมื่อพิจารณาตามขนาดธุรกิจ พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจรายย่อย มีสัดส่วนภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 97.1% และ 61.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจขนาดย่อมมีภาระหนี้สินลดลงมาอยู่ที่ 71.5%”
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า เอสเอ็มอี นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการลดลงจาก 91.9% เป็น 82% เนื่องจากเอสเอ็มอี เริ่มมีการนำเงินไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มมากขึ้นจาก 3% เป็น 9.7% และนำเงินไปลงทุนในกิจการเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 8.3% เพื่อขยายกิจการและซ่อมแซมสถานประกอบการ
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์จากผลสำรวจระบุว่า SME เผชิญปัญหาการชำระหนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น และเผชิญปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขันของคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้ จึงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ อีกทั้งการเข้าถึงวงเงินสินเชื่อจากแหล่งเงินต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ รวมถึงระยะเวลาสัญญาสินเชื่อที่สั้นเกินไป เกณฑ์การเข้าถึงสินเชื่อที่เข้มงวดมากตลอดช่วงหลังการฟื้นตัวจากโควิด ขั้นตอนการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก และการขาดความรู้หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จึงกลายเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์พบว่า SME ที่ไม่มีภาระหนี้สิน ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เริ่มมีความต้องการกู้ยืมเงินในอนาคตเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 17.6 เป็นร้อยละ 24.6 และจากร้อยละ 22.2 เป็นร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการ และ SME มองว่าปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำที่ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อลดลง คู่แข่งทางธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านการเงินของธุรกิจ เมื่อต้องการแหล่งเงินทุนหรือยื่นกู้สินเชื่อยังเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด รวมถึงธุรกิจที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสามารถในการชำระเงินคืนอีกด้วย
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์แม้ว่าสถานการณ์ภาวะหนี้สินของ SME ในไตรมาสที่ 4 เริ่มมีทิศทางทรงตัว SME ต้องการนำเงินกู้ที่ได้รับไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อต่ำ ราคาสินค้า บริการที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้า บริการได้นั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการเพิ่มการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อ เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์ในการยื่นขอสินเชื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกสาขาธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการไปพึ่งพาแหล่งกู้ยืมเงินที่ไม่เหมาะสมหรือผิดประเภทเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์很赞哦!(945)
相关文章
- "แต่ง..Monk"ปังดึง"ออม-กรณ์นภัส"ประเดิมเล่นหนังเรื่องแรกประกบ"เป้ อารักษ์-เฟย ภัทร" | เดลินิวส์
- "กีต้าร์"ส่งซิงเกิลภาษาอังกฤษ"Knew it"จากประสบการณ์กลัวการเปิดใจแต่ก็อยากมีคนให้รัก | เดลินิวส์
- "กีต้าร์"ส่งซิงเกิลภาษาอังกฤษ"Knew it"จากประสบการณ์กลัวการเปิดใจแต่ก็อยากมีคนให้รัก | เดลินิวส์
- เดลินิวส์ 5 ส.ค. คนไทยเฮลั่น 2 ฮีโร่ชิงทอง ลุ้นวิว-กุลวุฒิตบสนั่นวันนี้ | เดลินิวส์
- ช่อง 3 ออกแถลงการณ์เตือนพฤติกรรมกลุ่มบุคคลที่ก้าวก่ายเวลาส่วนตัวของ หลิงหลิง คอง
- 'ซึงกวาน-ดีเค-โฮชิ'มอบช่วงเวลาสุดพิเศษให้กับ 'กะรัต' จัดใหญ่เซอร์ไพรส์แบบฟินจุใจ! | เดลินิวส์
- ศน.ประกาศผลประกวด "สวดมนต์หมู่ฯทำนองสรภัญญะ" ระดับประเทศ | เดลินิวส์
- "BNK48"ยุคที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน ปล่อย"BORDERLESS"โชว์ความอิสระในท่าเต้น | เดลินิวส์
- เลขเด็ดนางรำ! คอหวยแห่ส่องพิธีรำบวงสรวง 'เจ้าพ่อเขาใหญ่' ลุ้นรวย 1 ก.พ.นี้ | เดลินิวส์
- 'ก้อง ห้วยไร่' ยันชัดไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง เพียงพอแล้ว-แบ่งปันเพื่อนร่วมอาชีพ! | เดลินิวส์
热门文章
- "แอนจ์" มั่นใจ "ไก่" จะฟื้นไข้หลังได้นักเตะตัวหลักทยอยคืนทัพ | เดลินิวส์
- "BNK48"ยุคที่ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน ปล่อย"BORDERLESS"โชว์ความอิสระในท่าเต้น | เดลินิวส์
- พ่อแม่ภูมิใจ 'จันทร์แจ่ม' สู้เต็มที่แล้ว อยากกอดลูก-ทำเมนูชอบให้กิน | เดลินิวส์
- จับตาการเมืองเดือดยุบ 'ก้าวไกล' สส.ซัน แฉแหลกเสนอ 30 ล้านให้เข้าพรรคตั้งใหม่ | เดลินิวส์
站长推荐
เปิดพิกัดสายมู 'นน รักแห่งสยาม' แนะนำ 'พระพิฆเนศแห่งเขาค้อ' ศรัทธา-ไหว้ขอพรความสำเร็จ | เดลินิวส์
1ใน13ทรชนรุมโทรมป.6ก่อเหตุเสร็จโทรฯมาเย้ย ช้ำครูในพื้นที่ซ้ำ “น้องยอมไปกับเขาเองหรือเปล่า” | เดลินิวส์
'เป้ย ปานวาด' รีบตอบกลับทันควัน หลัง 'ป๊อป นิธิ' โพสต์แรง ลั่นกลัวเข้าใจผิด | เดลินิวส์
เนเน่ พรนับพัน เสียงเพลง ตัวตน และโมเมนต์ประทับใจ ใน Chairs to Share
'โย่ง เชิญยิ้ม' อัปเดตผ่าหมอนรองกระดูก ปล่อยนานเสี่ยงอัมพาต พร้อมลุยงานแต่ยังต้องระวัง | เดลินิวส์
สังคมภูมิภาคตะวันตก...จับตา 'นายกบุญชู' สวมเสื้อเพื่อไทย ลงสนามชน 'ดร.อุดม' ป้องกันแชมป์นายกอบจ.สุพรรณบุรี | เดลินิวส์
ชาวเน็ตติง 'แจ็ค แฟนฉัน'เปิดเพลงดังรบกวนลูก ขอสวนกลับขอบคุณที่เป็นห่วง! | เดลินิวส์
น้องหมีเนย และ อาโป ณัฐวิญญ์ ร่วมงานในแคมเปญใหม่ของ ททท. เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในไทยช่วงปลายปี